0816516654
Site Home
| พระเครื่องamuletภาคกลาง
| พระสมเด็จพิมพ์รัศมี พิมพ์วงแขนเล็ก เนื้อผงใบลานกสิณไฟ กรุคลองขอม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุก
พระสมเด็จพิมพ์รัศมี พิมพ์วงแขนเล็ก เนื้อผงใบลานกสิณไฟ กรุคลองขอม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุก
เพิ่มเมื่อ: 2014-09-30 14:27:04.0
แก้ไขล่าสุด: 2022-01-22 12:03:06.0
เบอร์โทรติดต่อ: 0816516654
อีเมลล์: meteekit@yahoo.co.thพระสมเด็จพิมพ์รัศมี พิมพ์วงแขนเล็ก เนื้อผงใบลานกสิณไฟ กรุคลองขอม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสก(5)
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
พระสมเด็จพิมพ์รัศมี พิมพ์วงแขนเล็ก เนื้อผงใบลานกสิณไฟ กรุคลองขอม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสก(5)
บูชาองค์ละ 2,000 บาท เนื้อนี้หายากมากๆ
พระสมเด็จพิมพ์รัศมี พิมพ์วงแขนเล็ก เนื้อผงใบลานกสิณไฟ กรุคลองขอม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสก(5)
ประวัติของพระกรุคลองขอม (อ้างอิงที่ผมเคยเขียนเผยแพร่ไว้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2550)
วัดคลองขอม ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 คลองขอม อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ณ สถานที่แห่งนี้มีวัตถุมงคลที่ถูกซ่อนเร้นมานาน นั่นก็คือ "พระกรุวัดคลองขอม" ซึ่งพระกรุเก่าที่มีอายุการสร้างกว่า 90 ปี เรื่องพุทธคุณนั้นได้รับการยอมรับว่า "เข้มขลัง" ไม่แพ้พระกรุอื่น ๆ เพราะได้รับการปลุกเสกโดยลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสยาม และเป็นพระอาจารย์ใหญ่ของเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ เพียงแต่ว่าในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่มีการประชาสัมพันธ์ประวัติการสร้างให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างนอกพื้นที่รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ขาดข้อมูลอ้างอิงในการเช่าหา ประกอบกับมีการทำของฝีมือมาวางจำหน่ายในหลายพื้นที่ ทำให้พระกรุวัดคลองขอมกลายเป็นของดีที่หลายคนมองข้ามกันไปครับ
ตามประวัตินั้นพระกรุนี้ลพ.อ่วม เจ้าอาวาสวัดคลองขอมในสมัยนั้น ซึ่งท่านเองก็ได้รับขนานนามว่า "เกจิเฒ่าจอมขมังเวทแห่งเมืองสุพรรณ" มีความประสงค์ที่จะสร้างพระขึ้นชุดหนึ่ง เพื่อบรรจุกรุไว้เพื่อสืบทอดพระศาสนาในภายภาคหน้า จึงได้ปรึกษากับพระสหธรรมิกที่มีความสนิทสนมกับท่านคือ ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า (หลายท่านเข้าใจผิดว่าลพ.อ่วม เป็นศิษย์ลป.ศุข ครับ) ซึ่งเมื่อลป.ศุข ได้รับทราบเจตนาของลพ.อ่วม แล้วจึงได้มอบผงวิเศษและมวลสารต่าง ๆ ที่ได้สะสมมาจำนวนหนึ่งเพื่อร่วมในการสร้างพระในคราวนั้นด้วย โดยพระชุดนี้ได้เริ่มจัดสร้างราวปี 2460 ประกอบด้วยพระพิมพ์ต่าง ๆ ดังนี้
1) พิมพ์สมเด็จรัศมี (บ้างเรียก "พิมพ์รัศมี") พุทธลักษณะเหมือนพระสมเด็จ วัดระฆังฯ ทั้งพิมพ์และขนาด แต่องค์พระจะผอมชะลูดและ ขนาดของพระจะบางกว่า เศียรจะเป็นรูปข้าวหลามตัด หูลักษณะแบบบายศรี มีเส้นรัศมีเล็ก ๆ ล้อมรอบสวยงาม ประทับนั่งบนฐาน 3 ชั้น มีซุ้มระฆังครอบที่ด้านนอก มีด้วยกันหลายบล็อก สามารถแบ่งออกเป็นสามเนื้อ
- เนื้อดำ จัดสร้างจากผงใบลาน ซึ่งได้จากใบลานที่จารอักขระสมัยโบราณที่ชำรุดเผาเป็นเถ้าธุลี คลุกเคล้ากับดินดิบและผงวิเศษและมวลสารต่าง ๆ
- เนื้อขาว จัดสร้างจากดินดิบผสมกับผงวิเศษและมวลสารต่าง ๆ
- เนื้อแดงหรือเนื้อชมพู มวลสารจะเหมือนกับเนื้อขาวแต่ผสมว่านสบู่เลือด (เด่นด้านคงกระพัน) ด้วย
2) พิมพ์พระปิดตา เท่าที่พบจะมีทั้งเนื้อดำและเนื้อขาว มวลสารจะเหมือนกับพระสมเด็จรัศมีทุกประการ จำนวนการสร้างน้อยกว่าพระสมเด็จรัศมี ส่วนใหญ่จะแตกหัก ชำรุดเป็นส่วนใหญ่
3) พิมพ์พระประธาน เนื้อหาจะเหมือนกับพระปิดตาแต่จะแกร่งกว่าเล็กน้อย (ในหนังสือของอาจารย์มนัส โอภากุล ชื่อ "พระเครื่องเมืองสุพรรณ" เรียกพิมพ์นี้ว่า "พิมพ์รัศมีใหญ่")
4) พิมพ์ขัดสมาธิเพชร พิมพ์นี้จะมีน้อยมาก แทบจะเป็นตำนาน บางทีก็เช่าหาเป็นสำนักไปซะงั้น
หลังจากกดพิมพ์พระเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลพ.อ่วมท่านได้นิมนต์ลป.ศุข มาร่วมปลุกเสกพร้อมกันที่วัดคลองขอม หลังจากนั้นลพ.อุ่มได้นำพระจำนวนหนึ่งมอบให้ลป.ศุข นำไปแจกที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ส่วนที่เหลือจำบรรจุกรุไว้ที่ใต้ฐานชุกชีพระประธานในโบสถ์ และเจดีย์หลังโบสถ์ที่วัดคลองขอม จนกระทั่งเมื่อปี 2524 เจดีย์หลังโบสถ์นั้นได้ชำรุดทรุดตัวลงมาทางวัดจึงได้ทำการบูรณะและได้พบพระชุดดังกล่าว โดยผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่ในเหตุการณ์ในคราวนั้นได้เล่าว่า ในเจดีย์นั้นได้พบบันทึกเรื่องราวและพระเนื้อชินของลป.ศุข หลายพิมพ์จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นการยืนยันความเป็นมาเป็นไปได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อได้พบพระชุดดังกล่าวแล้วก็ยังมีอีกหลายคนในยุคนั้นยังกังขาจึงได้มีการทดลองพุทธคุณให้เป็นที่ประจักษ์กัน โดยนำไปลองยิงกันปรากฎว่า "ยิงไม่ออกแม้แต่นัดเดียว" จึงเป็นที่เลื่องลือในเรื่องของมหาอุดกันมากในยุคนั้น
หลังจากข่าวนี้แพร่หลายออกไป นักสะสมและนักเล่นจากพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วสารทิศก็ทยอยกันไปบูชาพระชุดนี้กันมาก (ตอนนั้นพระเนื้อชินของลป.ศุขท่านมีการเล่นหากันกว้างขวางแล้ว) และเมื่อนำไปใช้ก็พบว่า ผู้ใช้มีประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งคงกระพัน เมตตา มหานิยม ว่ากันว่าสมัยนั้นเซียนพระใหญ่ ๆ ในวงการต่างก็บูชาพระกรุชุดนี้กันส่วนมาก เมื่อของแท้ถูกเช่าหากันแพร่หลายจนของแท้ที่สภาพสมบูรณ์นั้นหมดไปอย่างรวดเร็ว เหล่าบรรดามิจฉาชีพจึงได้นำพระแท้มาถอดพิมพ์เสียใหม่ และผสมเนื้อหาให้ใกล้เคียงแล้วจึงกดเป็นพิมพ์พระออกจำหน่ายในราคาถูก ทำให้จู่ ๆ พระชุดนี้ก็มีมากมายและราคาถูก จนในที่สุดมีการพบว่ามีของฝีมือระบาดไปทั่ว หลายคนเช่าหาไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้พระกรุชุดนี้กลายเป็นที่หวั่นเกรงของนักสะสมไปช่วงหนึ่ง
กลับมาที่ประเด็นการพิจารณาความแท้ของพระกรุชุดนี้ไม่ยากจนเกินจะเข้าใจ เพราะพระกรุชุดนี้พระทุกองค์ ทุกพิมพ์ จะต้องมีการคราบกรุเกาะบนผิวองค์พระแนบแน่นไม่มากก็น้อย เพราะคราบกรุดังกล่าวจับแน่นเป็นเวลาหลายสิบปี พิมพ์ทรงนั้นเป็นเอกลักษณะแน่นอน ที่สำคัญคือ ความคมชัดลึกต้องชัดเจน มองแล้วมีมิติได้สัดส่วน นอกจากนั้นแล้วเรื่องความแห้งขององค์พระนั้นจะต้องแห้งสนิท น้ำหนักไม่หน่วงมือ สรุปรวมความว่าพระกรุชุดนี้นอกจากพุทธคุณจะเข้มขลังแล้วประสบการณ์ดีอย่างต่อเนื่อง ขนาดหนังสือ "มหาโพธิ์" และหนังสือ "เซียนพระ"ยังยกให้พระกรุชุดนี้จัดเป็นของดีประเภทรสดีรสโตอีกด้วยครับ
ขอบคุณ ข้อมูลจาก ร้านพรครูบา
|
